» มข.ปลูก “กัญชงลงแปลง” หวังวิจัย ประเมิน พัฒนาสายพันธุ์เพื่อการแพทย์ และอุตสาหกรรม (2745 Views)

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 16.00 น.  รศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  ได้เป็นประธานในพิธี“กัญชงลงแปลง” ซึ่งเป็นพิธีปลูกกัญชงเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์แปลงปฐมฤกษ์ สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา เป็นผู้กล่าวรายงานความเป็นมา โดยมี ศาสตราจารย์ ผิวพรรณ มาลีวงษ์  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา  รองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์  ผศ.ดร.ชานนท์ ลาภจิตร  หัวหน้าโครงการวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์  ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย คณบดี  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4  ปลัดจังหวัดขอนแก่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ป้องกันจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนคณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก  ณ หมวดพืชผัก สาขาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ศาสตราจารย์ ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา กล่าวว่า  ในการจัดพิธี “กัญชงลงแปลง” สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นครั้งนี้ ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา และกองบริหารงานวิจัย  โดยที่สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีภารกิจหลักในการดำเนินโครงการวิจัยกัญชงกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสหกรรมที่เกี่ยวข้อง และมีแผนที่จะดำเนินงานวิจัยพืชกัญชง และกัญชาแบบบูรณาการครบศาสตร์ จากต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่ทีมคณะเกษตรศาสตร์ ทำการศึกษาวิจัยด้านการปลูก ปรับปรุงพันธุ์ และพัฒนาสายพันธุ์ ทีมคณะวิทยาศาสตร์ดำเนินการศึกษาวิจัยสกัดน้ำมันกัญชงและกัญชา วิเคราะห์สารองค์ประกอบสำคัญ ทีมจากคณะเภสัชศาสตร์ดำเนินการวิจัยและพัฒนาเพื่อเตรียมรูปแบบ ขนาด ผลิตภัณฑ์ยา เพื่อส่งต่อให้ทีมคณะแพทยศาสตร์ นำไปวิจัยด้านคลินิกในผู้ป่วยเฉพาะโรค เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ยาที่รักษาเฉพาะโรค หรือเฉพาะรายบุคคล หรือ personalized medicine และทีมคณะสัตวแพทย์ มีการศึกษาวิจัยด้านการนำวัสดุเศษเหลือจากการศึกษาวิจัยด้านต่างๆ ไปพัฒนาเป็นอาหารสัตว์”

รศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล  กล่าวในพิธีเปิดว่า  “สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการวิจัย และพัฒนาพืชกัญชาและกัญชง เพื่อการนำไปใช้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ในมนุษย์และสัตว์ รวมไปถึง การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ นอกจากนี้ปัจจุบัน สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ ได้ดำเนินโครงการวิจัย การประเมินและพัฒนาสายพันธุ์กัญชง เพื่อการแพทย์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อการวิจัยด้านการปรับปรุงพันธุ์ การวิเคราะห์สารสำคัญ ในรูปแบบยา และการวิจัยคลินิกทางการแพทย์ และสัตวแพทย์ ศึกษาวิจัยการประเมินสายพันธุ์กัญชง เพื่อการแพทย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง”
“มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ในฐานะที่ได้รับหนังสือสำคัญแสดงการอนุญาตผลิตซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5  เฉพาะเฮมพ์ (ตามหนังสือสำคัญ ที่ 19/2563) ซึ่งพิธี “กัญชงลงแปลง” ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นที่แรกในจังหวัดขอนแก่น ที่มีการปลูกกัญชงเพื่อการประเมิน และพัฒนาสายพันธุ์กัญชงเพื่อการแพทย์ การปลูกครั้งนี้ เป็นการปลูกรอบแรก ซึ่งจะนำไปใช้ในการวิจัย ประเมิน และพัฒนาสายพันธุ์กัญชงเพื่อการแพทย์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าการศึกษาวิจัยพืชกัญชงของมหาวิทยาลัยขอนแก่นนี้ จะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ รวมไปถึงการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องด้านต่างๆ มีการส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชง ให้กับวิสาหกิจชุมชน ชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐบาล เอกชน และการต่อยอดสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ตามกฎหมายที่บังคับใช้ ตลอดจนเป็นสถาบันวิจัยที่เป็นศูนย์กลางข้อมูล เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสารต่างๆ ให้กับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสาธารณชน ของจังหวัดขอนแก่นต่อไป”

กัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) ในประเทศไทยยังถูกจำแนกเป็นพืชเสพติดประเภท 5 เช่นเดียวกับกัญชา ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพราะพืชกลุ่มนี้มีสาร Tetrahydrocannabinol (THC) สารเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท Cannabinol (CBN) และ Cannabidiol (CBD) สารต้านการออกฤทธิ์ของสาร THC ซึ่งในเฮมพ์มีปริมาณของสาร THC ต่ำกว่ากัญชามาก และมีสาร CBD ในเมล็ด ซึ่งปัจจุบัน งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้เปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับเฮมพ์จากทางลบกลายเป็นบวก  กัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่โดดเด่นเรื่องของเส้นใย ให้ผลผลิตมากกว่าฝ้าย ให้คุณภาพสูงกว่า ใช้แรงงานในการปลูกน้อยกว่า ไม่ต้องใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชปริมาณมาก เจริญเติบโตได้ง่าย ได้รับความสนใจในการนำเส้นใยกัญชงเข้ามาทดแทนเส้นใยสังเคราะห์ทั้งหมดในอนาคต สาเหตุมาจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนปัญหาสุขภาพ  เฮมพ์อาจสร้างมูลค่านับแสนล้านจากการนำทุกส่วนของเฮมพ์ไปแปรรูปออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทในระดับอุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอเครื่องนุ่มห่ม อาหารมนุษย์ อาหารสัตว์ เครื่องสำอาง ผลิตกระดาษ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือน และผลิตพลังงานชีวมวลในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น ทำให้ต้องมีการส่งเสริมการปลูก ผลิต และจำหน่ายมากขึ้น แต่เนื่องจากพื้นที่ปลูกในประเทศไทยมีสภาพแวดล้อม สภาพภูมิอากาศค่อนข้างร้อน ส่งผลต่อปริมาณของสาร THC โดยตรง อาจทำให้ปริมาณของสาร THC ในเฮมพ์ที่ปลูกนั้นมีปริมาณค่อนข้างสูง ปัจจุบันปลูกได้ใน 6 จังหวัด 15 อำเภอของภาคเหนือของประเทศไทย  การจะเริ่มต้นปลูกเฮมพ์แบบอุตสาหกรรมเส้นใยได้นั้น ต้องเป็นไปตามที่กฎกระทรวงระบุไว้ซึ่งต้องมีปริมาณ Tetrahydrocannabinol (THC) ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้ำหนักแห้ง การปลูกเฮมพ์จึงเน้นระยะห่างระหว่างต้นให้ใกล้กันที่สุดซึ่งจะไปกระตุ้นให้มีลำต้นยาวตรงสูงมากกว่า 2 เมตร ปล้อง หรือข้อยาว เพื่อนำเส้นใย แกนลำต้น เมล็ด และใบจากเฮมพ์ มาใช้ประโยชน์

มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่มีการศึกษาค้นคว้างานวิจัยทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีทั้งงานวิจัยพื้นฐาน และงานวิจัยประยุกต์และทางคลินิก ตลอดจนมีนักวิจัย และเครื่องมือการวิจัยที่มีศักยภาพที่จะดำเนินการวิจัยต่างๆ ทุกด้านและทุกสาขาวิชา  จึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ เพื่อดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับพืชกัญชง และกัญชา และได้มีการศึกษาวิจัยกัญชง เพื่อปลูกประเมินลักษณะประจำพันธุ์ และปริมาณสาระสำคัญในกัญชง (THC) และ (CBD) ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพัฒนาระบบการผลิตกัญชงให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ยังทำหน้าที่ในการส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชง เป็นศูนย์กลางข้อมูล เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสารให้กับวิสาหกิจชุมชน ชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐบาล เอกชน ให้เกิดการต่อยอดสู่การอุตสาหกรรม

ข่าว/ภาพ  :   วัชรา  น้อยชมภู

ที่มา: https://th.kku.ac.th/45509/


Poster : พราวแสง ภูสิงหา [Ms. Prowsaeng Poosinghar] | 18 มกราคม 64